วันอังคารที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2552

บทความดีๆ สำหรับคนมีทุกข์

บทความดีๆ สำหรับคนมีทุกข์
คุณเคยรู้สึกไหม ว่าชีวิตช่างลำบาก คุณไม่อยากอยู่ในสภาพแวดล้อมอย่างที่เป็นอยู่ คุณรู้สึกว่า ชีวิตนั้นเป็นทุกข์ อาชีพการงานไม่ได้ดั่งใจ อะไร ๆ ก็ผิดพลาดไปหมด? เรื่องราวต่อไปนี้ อาจจะเปลี่ยนแปลง ทัศนคติที่คุณมีต่อชีวิตคุณได้ ผมสนทนากับเพื่อนคนหนึ่ง ถึงแม้ว่า เขาจะทำงานสองอย่าง รายได้แต่ละเดือนหักลบรายจ่ายแล้วยังเหลือแค่พันกว่า แต่เขาก็มีความสุขมากแล้ว ผมแปลกใจมากที่เขามีความสุขขนาดนั้น เพราะเขามีรายได้น้อย ต้องประหยัดมัธยัสถ์จึงจะพอมีเหลือเลี้ยงดูคุณพ่อคุณแม่สูงอายุ พ่อตาแม่ยาย ภรรยาและลูกสาวอีกสองคน ไหนจะค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จุกจิกภายในครอบครัว เขาอธิบายให้ฟังว่า เป็นเพราะหลายปีก่อนเขาได้เห็นเหตุการณ์บางอย่างที่ประเทศอินเดีย ขณะนั้นเขา ประสบปัญหาที่สาหัสมาก สภาพจิตใจตกต่ำจึงไปเที่ยวอินเดียเพื่อให้สบายใจขึ้น เขาได้เห็นกับตา ผู้หญิงชาวอินเดียคนหนึ่ง ถือมีดอีโต้ตัดแขนขวาของลูกตัวเอง สายตาที่หมดหวังของผู้หญิงคนนั้น และเสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดของเด็กอายุสี่ขวบ จนบัดนี้ยังวนเวียนอยู่ในใจเขามิรู้ลืม คุณอาจจะถามว่า ทำไมแม่คนนั้นจึงต้องทำเช่นนี้ ? เป็นเพราะลูกของเธอซุกซนเกินไปหรือเปล่า ? หรือเป็นเพราะแขนของเด็กติดเชื้อ ? ไม่ใช่ ที่แท้ทำไปเพื่อให้เด็กสามารถไปขอทานตามถนน แม่ผู้สิ้นหวังคนนั้นจงใจทำให้ลูกตัวเองพิการ เพื่อเขาสามารถออกขอทานตามท้องถนนได้ เพื่อนของผมคนนี้ตกใจแทบช๊อก ขนมปังในมือของเขาที่เพิ่งกินได้ครึ่งก้อนตกหล่นลงพื้น ทันทีทันใดก็มีเด็กๆ ห้าหกคนกรูกันเข้ามา แย่งชิงขนมปังที่เลอะทรายบนพื้น เหมือนกับปฏิกิริยาอัตโนมัติเวลาผจญกับความหิวโหย เขาตกใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว ไกด์ของเขาขับรถพาเขาไปยังร้านขนมปังที่ใกล้ที่สุด เขาเข้าไปในสองร้านของละแวกนั้น ขอซื้อขนมปังทั้งหมดในร้าน เจ้าของร้านขนมปังแปลกใจมาก แต่ก็ยินดีขายขนมปังทั้งหมดให้เขา เขาใช้เงินทั้งหมดไม่ถึงหนึ่งร้อยเหรียญ ซื้อขนมปังมาประมาณสี่ร้อยกว่าก้อน (ตกก้อนละไม่ถึง 25 เซน) แล้วใช้อีกหนึ่งร้อยเหรียญซื้อของใช้ประจำวัน และแล้ว เขาก็นั่งบนรถบรรทุกที่บรรทุกขนมปังไว้เต็มคันรถ ขับไปบนถนน ขณะที่เขาแจกจ่ายขนมปังและของใช้ประจำวันให้กับเด็ก ๆ ซึ่งพิการเป็นส่วนใหญ่นั้น พวกเขาล้วนโค้งคำนับให้ด้วยความดีใจ นั่นเอง เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาคิดได้ว่า ทำไมคนเราจึงสามารถละทิ้งศักดิ์ศรีของตนเองเพียงเพื่อชิ้นขนมปัง ราคาไม่ถึง 25เซน เขาเริ่มบอกตนเองว่าตนเองนั้นโชคดีแค่ไหน เขามีร่างกายครบสามสิบสอง มีอาชีพการงาน มีครอบครัว มีโอกาสบ่นว่าอาหารชิ้นไหนดี อาหารชิ้นไหนไม่อร่อย มีโอกาสสวมใส่เสื้อผ้า มีโอกาสครอบครองสิ่งของมากมายที่คนเหล่านี้ไม่มี ตอนนี้ ผมเริ่มคิดได้และตระหนักได้ว่า ชีวิตของผมมันย่ำแย่จริงหรือ ? บางทีมันอาจไม่ได้ย่ำแย่ขนาดนั้นก็ได้ คุณละ ? บางทีเมื่อครั้งหน้าคุณรู้สึกว่า ชีวิตของตนกำลังย่ำแย่ ลองคิดถึงเด็กคนที่ต้องเสียแขนเพื่อเป็น ขอทานคนนั้นดูสิ ! “ความรู้สึกพอ” ไม่ใช่มาจากการเติมเต็มสิ่งที่คุณต้องการ แต่มาจากการตระหนักว่า คุณมีมากมายและเพียงพอ เมื่อประตูแห่งความสุขปิดลง ประตูอีกบานหนึ่งก็จะเปิดออก แต่บ่อยครั้งเรามัวแต่จ้องบานประตูที่ปิดลงเท่านั้น ไม่ได้สังเกตเห็นประตูอีกบานหนึ่งที่เปิดออกเพื่อเรา จริงอยู่ พวกเรามักจะรู้ว่าตนเองมี ก็ต่อเมื่อเราสูญเสียมัน แต่พวกเราก็ต้องคอยจนกว่าของสิ่งนั้นมาถึง จึงจะรู้ตัวว่า เราไม่มีมัน การมอบความรักทั้งหมดให้กับผู้อื่น มิได้หมายความว่า เราจะได้รับความรักตอบกลับมาอย่างเท่าเทียมกัน อย่าหวังว่า รักผู้อื่นแล้วผู้อื่นจะรักตอบ จงสนใจแค่ให้ความรักนั้น เติบโตขึ้นในใจพวกเขา แต่ถ้าไม่เติบโตขึ้นเลยก็จงพอใจกับความรักที่เติบโตขึ้นในใจของคุณเอง หนึ่งนาทีจึงจะทำลายคน ๆ หนึ่งได้ หนึ่งชั่วโมงจึงจะชอบคน ๆ หนึ่งได้ หนึ่งวันจึงจะรักคนๆ หนึ่งได้ แต่ต้องใช้เวลาตลอดชั่วชีวิต จึงจะลืมคน ๆ หนึ่งได้ จงอย่ามองเพียงรูปภายนอก เพราะสักวันมันจะหลอกคุณ จงอย่ามองแค่ความร่ำรวย ทรัพย์สมบัติ เพราะสักวันมันจะซีดจางลง หาใครสักคนที่ยิ้มให้คุณ เพราะเมื่อมีรอยยิ้ม จะทำให้อารมณ์ของคุณดีขึ้น หาใครสักคนที่ทำให้คุณอมยิ้มได้จากใจจริง บางครั้งเมื่อคุณคิดถึงใครสักคน ความคิดถึงนั้นอาจถึงขั้นให้คุณคว้าตัวเขาออกมาจากความฝัน โอบกอดตัวเขาเอาไว้ ไล่ตามความฝันของคุณเอง ไปยังที่ ๆ คุณอยากไป เป็นอย่างคนที่คุณอยากเป็น เพราะคุณมีเพียงชีวิตเดียว ซึ่งหมายถึง...มีเพียงโอกาสเดียวในการทำสิ่งที่คุณอยากทำ แปลจากบทความของ "โหว เหวินหย่ง" (เจ้าของผลงาน เกิดมาซน ทั้งสองเล่ม)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น